ภาษาไทย (泰文)

WTO และ APEC

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong SAR) มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าภายนอกประเทศ โดยกฎหมายพื้นฐานของ HKSAR กำหนดให้เป็นเขตศุลกากรแยกต่างหาก และสามารถใช้ชื่อ "ฮ่องกง จีน" ในการเข้าร่วมองค์กรระหว่างประเทศและข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) และความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)

ฮ่องกงเป็นผู้สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่อิงตามกฎเกณฑ์ของ WTO อย่างแข็งขัน เราเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง WTO และยังคงรักษาสถานะสมาชิกแยกจากกันภายใต้ชื่อ “ฮ่องกง จีน” นับตั้งแต่ก่อตั้ง Hong Kong SAR ในทำนองเดียวกัน ฮ่องกงยังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในฐานะสมาชิกเต็มรูปแบบและแยกจากกันภายใต้ชื่อ "ฮ่องกง จีน" ใน APEC ซึ่งเป็นเวทีระดับภูมิภาคสำหรับการเจรจาระดับสูงเกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจ

ความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนแผ่นดินใหญ่

จีนแผ่นดินใหญ่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองแห่งให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้วิสาหกิจในฮ่องกงเข้าถึงตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง (CEPA) ในเดือนมิถุนายน 2003 เพื่อเปิดเสรีตลาดจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มเติม และอำนวยความสะดวกให้กับการค้าและการลงทุนทวิภาคี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ขยายขอบเขตและปรับปรุงเนื้อหาของ CEPA อย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีข้อตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมและทันสมัย ซึ่งครอบคลุมสี่ด้าน ได้แก่ การค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและทางเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทในฮ่องกงได้รับการปฏิบัติที่พิเศษที่สุดในการเข้าถึงตลาดจีนแผ่นดินใหญ่

ความสัมพันธ์ทางการค้ากับตลาดต่างประเทศ

เรามีเครือข่ายสำนักงานเศรษฐกิจและการค้า (ETO) ในต่างประเทศจำนวน 14 แห่ง ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการค้าของฮ่องกง โดยสำนักงานเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของฮ่องกงในต่างประเทศ ติดตามความคืบหน้าต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของฮ่องกงอย่างใกล้ชิด และติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับภาคธุรกิจและการค้า นักการเมือง และสื่อต่างประเทศ สำนักงาน ETOs จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ ETOs ในภูมิภาคสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่กรุงเทพฯ จาการ์ตา และสิงคโปร์ ETO ในเอเชียอยู่ที่โตเกียว ETOs ในยุโรปอยู่ที่เบอร์ลิน บรัสเซลส์ เจนีวา และลอนดอน ETOs ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และวอชิงตัน ETO ในแคนาดาอยู่ที่โตรอนโต ETO ในออสเตรเลียอยู่ที่ซิดนีย์ และ ETO ในตะวันออกกลางอยู่ที่ดูไบ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิกที่สำนักงานเศรษฐกิจและการค้า (ETO)

สำหรับข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกงในการค้าโลก โปรดคลิกที่https://www.cedb.gov.hk/en/policies/external-commercial-relations.html และ https://www.cedb.gov.hk/en/trade-and-investment/hong-kong-in-global-trade.html

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong SAR) ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชีย และเป็นที่รู้จักด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยหลักนิติธรรม จึงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลกสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ รัฐบาล Hong Kong SAR (รัฐบาล) พยายามอย่างแข็งขันในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

สำนักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้ากำกับดูแลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ โดยได้รับความช่วยเหลือจากการลงทุนฮ่องกงและสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง องค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐหลายแห่ง รวมถึงองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนและธุรกิจอย่างแข็งขัน รัฐบาลให้บริการปรึกษาและสนับสนุนที่หลากหลายแก่บริษัทที่สนใจลงทุนในฮ่องกง รวมถึงบริษัทที่ลงทุนในฮ่องกงอยู่แล้วผ่านทางหน่วยงานเหล่านี้

รัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนสูงสุดและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อธุรกิจและสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมกัน สํานักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า (CEDB) รับผิดชอบนโยบายโดยรวมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประสานงานกับภาคธุรกิจ การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนการส่งเสริมและการอำนวยความสะดวกทางการค้า

การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจฮ่องกง ซึ่งคิดเป็นประมาณ 98% ของวิสาหกิจในฮ่องกง CEDB รับผิดชอบนโยบายโดยรวมสำหรับการสนับสนุน SME และให้บริการผ่านกรมการค้าและอุตสาหกรรม (TID) และหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึง:

•   โครงการระดมทุน

-กองทุนเฉพาะด้านการสร้างแบรนด์ การอัปเกรด และการขายในประเทศ (กองทุน BUD) ภายใต้ TID: ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่องค์กรต่าง ๆ สำหรับการพัฒนาตลาดที่ฮ่องกงได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีและ/หรือข้อตกลงการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน;
-กองทุนส่งเสริมการตลาดเพื่อการส่งออก SME (EMF) ภายใต้ TID: ให้การสนับสนุนเงินทุนแก่ SMEs ในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริม;
-โครงการค้ำประกันทางการเงิน SME บริหารจัดการโดย HKMC Insurance Ltd.: ช่วยให้ SMEs ได้รับเงินทุนเชิงพาณิชย์ผ่านการค้ำประกันเงินกู้จากรัฐบาล; และ
-กองทุนสนับสนุนองค์กรการค้าและอุตสาหกรรม (TSF) ภายใต้ TID: ให้การสนับสนุนเงินทุนแก่องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรวิสาหกิจฮ่องกงในภาคส่วนทั่วไปหรือในภาคส่วนเฉพาะ

•   บริการข้อมูลและให้คำปรึกษา

-ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 รัฐบาลได้รวมศูนย์บริการ SME จำนวนสี่แห่งเข้าด้วยกัน ได้แก่Support and Consultation Centre for SMEs (SUCCESS) ของ TID ศูนย์"SME Centre"ภายใต้สภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ศูนย์ “SME One” ภายใต้สภาเพิ่มผลผลิตแห่งฮ่องกง (HKPC) และ ศูนย์ "TecONE"ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง เพื่อให้ SMEs สามารถรับคำปรึกษาและบริการแนะนำแบบครบวงจรเกี่ยวกับโครงการระดมทุนของรัฐบาลและบริการสนับสนุนแบบครบวงจรที่ศูนย์เหล่านี้
-SMEs สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริการสนับสนุนที่ครอบคลุมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ "SME Link"
-TID ได้จัดตั้งทีม “SME ReachOut” เพื่อสนับสนุน SMEs ในการระบุโครงการระดมทุนของรัฐบาลที่เหมาะสม และตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร ตลอดจนการจัดหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สัมมนา และการเยี่ยมชมหอการค้า

การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการค้า

ภายใต้การกำกับดูแลของ CEDB:

-องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงตามกฎหมายมีหน้าที่ส่งเสริมการค้าภายนอกประเทศของฮ่องกงอย่างแข็งขัน; และ
-องค์กรรับประกันการส่งออกเขตบริหารพิเศษฮ่องกงตามกฎหมายมีหน้าที่ให้ความคุ้มครองการประกันภัยสำหรับผู้ส่งออกในประเทศจากความเสี่ยงของการไม่ชำระเงินอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางการค้าและการเมืองสำหรับสินค้าที่ขายหรือบริการให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ

CEDB บริหารจัดการโครงการสนับสนุนความก้าวหน้าด้านการบริการทางวิชาชีพ เพื่อให้การสนับสนุนทางด้านการเงินสำหรับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อดำเนินโครงการที่มุ่งอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการทางวิชาชีพของฮ่องกงจากภายนอก

เพื่อลดเอกสารที่เกี่ยวข้องและเพิ่มประสิทธิภาพในการซื้อขาย รัฐบาลจึงมองหาวิธีปรับปรุงระบบสำหรับธุรกรรมระหว่างรัฐบาล (B2G) อย่างต่อเนื่อง CEDB รับผิดชอบนโยบายสำหรับบริการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล ซึ่งรองรับการส่งและการประมวลผลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการค้าหลักที่สำคัญทางอิเล็กทรอนิกส์ และยังทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดตัวระบบศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรสำหรับการส่งเอกสารการค้านำเข้าและส่งออกกับภาครัฐ เพื่อวัตถุประสงค์ในการสำแดงการค้าและพิธีการศุลกากร

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิกhttps://www.cedb.gov.hk/en/policies/industry-and-business-support.html

ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (B&RI) เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาว โดยหยึดหลัก "การใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของฮ่องกง การตอบสนองความต้องการของประเทศ" รัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมยุทธศาสตร์แห่งชาติที่สำคัญนี้ในเชิงรุกมาโดยตลอด โดยใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของเราจากการได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากมาตุภูมิ และการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดในระดับโลกภายใต้กรอบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ"

ฮ่องกงมีส่วนร่วมและมีส่วนสนับสนุนการพัฒนา B&RI อย่างเต็มที่โดยใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของเราในฐานะแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้จริงสำหรับ B&RI รวมถึงการมีบทบาทของเราอย่างเต็มที่ในฐานะ "ผู้เชื่อมโยงขั้นสูง" และ "ผู้เพิ่มมูลค่าขั้นสูง" รัฐบาล HKSAR ได้นำแนวทางเชิงกลยุทธ์แบบทั้งรัฐบาลมาใช้ โดยสำนักงานสายแถบและเส้นทาง (BRO) ของสํานักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าเป็นผู้นำและประสานงานการทำงานของรัฐบาล HKSAR เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ของฮ่องกงใน B&RI โดยสำนักงาน BRO ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อการประสานงานด้านนโยบายที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจัดโปรแกรมต่าง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและหอการค้า และองค์กรวิชาชีพต่าง ๆ รวมถึงการจัดการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางประจำปี ภารกิจเชิงรุก และการจับคู่ทางธุรกิจและกิจกรรมการมีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ เป็นครั้งคราว

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของรัฐบาล HKSAR ในด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของฮ่องกงใน B&RI โปรดคลิก http://www.beltandroad.gov.hk

ฮ่องกงมีตลาดโทรคมนาคมที่มีความซับซ้อนและประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) ปรับใช้นโยบายโทรคมนาคมที่ส่งเสริมการแข่งขันและสนับสนุนผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:

--บริการโทรคมนาคมที่มีคุณภาพหลากหลายที่สุดควรพร้อมให้บริการแก่ชุมชนในราคาที่เหมาะสม;
-บริการโทรคมนาคมควรจัดทำขึ้นในลักษณะที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้; และ
-ฮ่องกงควรทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสื่อสารที่โดดเด่นของภูมิภาค

บริการโทรคมนาคมในฮ่องกงได้รับการเปิดเสรีอย่างเต็มที่และให้บริการโดยภาคเอกชนทั้งหมด โดยไม่มีข้อจำกัดในการเป็นเจ้าของโดยชาวต่างชาติสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม นี่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับบริการที่เท่าเทียมกันในเรื่องนี้ และรับประกันว่าผู้บริโภคจะได้รับบริการที่ดีที่สุดทั้งในด้านความจุ คุณภาพ และราคา

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับงานด้านโทรคมนาคมของเรา โปรดคลิก https://www.ofca.gov.hk/en/contact_us/support/index.html และ https://www.cedb.gov.hk/en/policies/telecommunications.html

การแพร่ภาพกระจายเสียงมีหน้าที่สำคัญในการให้ข้อมูล ความบันเทิง และความรู้ ฮ่องกงมีอุตสาหกรรมการแพร่ภาพกระจายเสียงที่คึกคัก โดยมีช่องโทรทัศน์ดิจิทัล (TV) ฟรี 15 ช่อง และสถานีวิทยุ 14 ช่องที่ให้บริการโดยผู้แพร่ภาพกระจายเสียงเชิงพาณิชย์และผู้แพร่ภาพกระจายเสียงบริการสาธารณะ สถานีวิทยุโทรทัศน์ฮ่องกง (RTHK) รวมถึงช่องสัญญาณดาวเทียม และช่องที่สามารถรับชมผ่านทาง TV แบบชำระเงินอีกกว่า 700 ช่อง

วัตถุประสงค์เชิงนโยบายของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) คือการขยายทางเลือกของโปรแกรมให้กับชุมชน ส่งเสริมการลงทุนและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการแพร่ภาพกระจายเสียง ส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ และยกระดับฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางการแพร่ภาพกระจายเสียงระดับภูมิภาค

การให้บริการการแพร่ภาพกระจายเสียงได้รับการควบคุมภายใต้ข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านใบอนุญาต กรอบการออกใบอนุญาตได้รับการออกแบบมาในลักษณะที่จะทำให้มั่นใจว่าหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตมีความเหมาะสมกับระดับอิทธิพลและการแพร่หลายของบริการการแพร่ภาพกระจายเสียงที่ต้องการอนุญาต โดยสรุปแล้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในสภามีอำนาจในการออกและต่ออายุใบอนุญาตบริการรายการ TV ฟรีในประเทศ ใบอนุญาตบริการรายการ TV แบบชำระเงินในประเทศ และใบอนุญาตแพร่ภาพกระจายเสียง โดยพิจารณาตามคำแนะนำของ กรมการสื่อสาร (CA) ในทางกลับกัน CA มีอำนาจตามกฎหมายในการให้ใบอนุญาตและต่ออายุใบอนุญาตบริการรายการ TV ที่ไม่ใช่รายการในประเทศและใบอนุญาตบริการรายการ TV อื่น ๆ ที่สามารถขอใบอนุญาตได้

สำหรับรายละเอียดการดำเนินงานของกรมการสื่อสาร โปรดคลิกhttps://www.ofca.gov.hk/en/contact_us/support/index.html

การแพร่ภาพ TV

รัฐบาลได้ดำเนินการทบทวนนโยบาย TV อย่างครอบคลุมในปี 1998 และต่อมาได้เปิดตลาด TV ในปี 2000 โดยไม่มีการจำกัดจำนวนใบอนุญาตที่จะได้รับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางกายภาพหรือทางเทคโนโลยี

รัฐบาลได้นำระบบการกำกับดูแลที่เป็นกลางด้านเทคโนโลยีมาใช้ตั้งแต่ปี 2000 บริการรายการ TV ได้รับใบอนุญาตและควบคุมตามลักษณะและความแพร่หลายแทนที่จะขึ้นอยู่กับโหมดการส่งสัญญาณ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการแพร่ภาพกระจายเสียง (หมวด 562) บริการรายการ TV แบ่งออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่ บริการรายการแบบฟรีภายในประเทศ รายการแบบชำระเงินภายในประเทศ รายการที่ไม่ใช่รายการในประเทศ และรายการ TV อื่น ๆ ที่ได้รับใบอนุญาต

ปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาตบริการรายการ TV ฟรีภายในประเทศจำนวน 3 ราย ได้แก่ i-CABLE HOY Limited (เดิมชื่อ “Fantastic Television Limited”), HK Television Entertainment Company Limited และ Television Broadcasts Limited ซึ่งกำลังให้บริการช่องในประเทศจำนวน 10 ช่องในรูปแบบดิจิทัล โดยใช้คลื่นความถี่และ/หรือเครือข่ายประจำเป็นโหมดการส่งสัญญาณ ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงทั้ง 3 รายจะต้องออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาเชิงบวก ได้แก่ ข่าวสาร รายการเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน และรายการสำหรับเด็กและเยาวชน ฯลฯ ตามข้อกำหนดของกรมการสื่อสารเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนทั่วไปในฮ่องกง นอกจากนี้ RTHK ซึ่งเป็นผู้แพร่ภาพกระจายเสียงสาธารณะของฮ่องกงยังผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและนำเสนอช่อง TV ดิจิทัลห้าช่อง

บริษัท PCCW Media Limited ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้บริการรายการ TV แบบชำระเงินภายในประเทศให้บริการช่อง TV แบบชำระเงินมากกว่า 200 ช่องโดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบ บริการ TV แบบชำระเงินอยู่ภายใต้กฎระเบียบการควบคุมด้านเนื้อหาที่ไม่เข้มงวดมากนัก แต่เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่ผู้ให้บริการจะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการล็อคเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เยาว์เข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่

ฮ่องกงจัดตำแหน่งตัวเองให้เป็นศูนย์กลางการแพร่ภาพกระจายเสียงของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีผู้รับใบอนุญาตให้บริการรายการ TV ที่ไม่ใช่รายการในประเทศจำนวน 9 รายที่ให้บริการช่องรายการ TV ผ่านดาวเทียมมากกว่า 200 ช่องสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การกระจายเสียง

บริการกระจายเสียงอยู่ภายใต้การควบคุมภายใต้ส่วนที่ 3A ของกฎหมายโทรคมนาคม (หมวด 106) มีสถานีวิทยุท้องถิ่น 14 ช่องที่ให้บริการในฮ่องกง ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงเชิงพาณิชย์สองราย ได้แก่ Hong Kong Commercial Broadcasting Company Limited และ Metro Broadcast Corporation Limited ซึ่งดำเนินการออกอากาศรายละสามช่อง ส่วนอีกแปดช่องดำเนินการโดย RTHK ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะ

ผู้แพร่ภาพกระจายเสียงจำเป็นต้องนำเสนอความบันเทิงอย่างสมดุล รายการที่ให้ข้อมูลและความรู้ รวมถึงข่าวสารและรายงานสภาพอากาศ สถานการณ์ปัจจุบัน รายการศิลปะและวัฒนธรรม และรายการสำหรับเยาวชน ผู้สูงอายุ และเด็ก นอกจากนี้ยังมีการออกอากาศรายการในภาษาฟิลิปปินส์ ฮินดี และไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของชนกลุ่มน้อยในฮ่องกงด้วย

บริการการแพร่ภาพกระจายเสียงสาธารณะ

RTHK (https://www.rthk.hk/racial_equality/index_e.html)เป็นหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่บริการภาพกระจายเสียงสาธารณะของเมือง โดยให้บริการวิทยุ TV และสื่อบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ทันสมัยอย่างเป็นอิสระ เป็นมืออาชีพ และมีคุณภาพใบอนุญาตกรรมสิทธิ์ของ RTHK ยึดมั่นในความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการของ RTHK และกำหนดวัตถุประสงค์สาธารณะ ภารกิจ และความสัมพันธ์กับสำนักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า CA และคณะกรรมการที่ปรึกษาของ RTHK

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิก https://www.cedb.gov.hk/en/policies/broadcasting.html

เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม การพัฒนาและการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ตลอดจนการค้าและการลงทุน เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมถึงสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า การออกแบบ พันธุ์พืช และการออกแบบผังวงจรรวม สำนักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้ารับผิดชอบนโยบายด้าน IP ภายในรัฐบาล โดยได้รับความช่วยเหลือจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา (IPD) สำหรับหน้าที่บริหาร เช่น การจดทะเบียนสิทธิบัตร การออกแบบ และเครื่องหมายการค้า และโดยกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตในการบังคับใช้ IP ตามลำดับ

แผนยุทธศาสตร์ห้าปีแห่งชาติฉบับที่ 14 ระบุเป็นครั้งแรกว่าจะสนับสนุนให้ฮ่องกงพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้า IP ระดับภูมิภาค เราจะดำเนินการชุดความคิดริเริ่มต่อไปเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการค้า IP ในฮ่องกง รวมถึงการเสริมสร้างระบบ IP ของฮ่องกง ส่งเสริมการแสวงหาประโยชน์จาก IP และส่งเสริมการสร้างกำลังคน และยกระดับการส่งเสริมการขาย การศึกษา และความร่วมมือภายนอก เว็บไซต์ ฮ่องกง – ศูนย์กลางการค้าทรัพย์สินทางปัญญาในภูมิภาคซึ่งเปิดตัวโดย IPD จะให้การเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการซื้อขาย IP ในระดับภูมิภาคแบบครบวงจร

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิก https://www.cedb.gov.hk/en/policies/intellectual-property-protection.html

รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) มุ่งมั่นที่จะปกป้องผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น กฎหมายถูกนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่จำหน่ายในฮ่องกงนั้นมีความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม และจำหน่ายตามหลักปฏิบัติทางการค้าที่ดี นอกจากนี้ ยังมีการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อจัดการกับข้อร้องเรียนของผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเข้าถึงการเยียวยาทางกฎหมายอีกด้วย

ข้อกฎหมาย

สำนักงานนี้มีหน้าที่รับผิดชอบนโยบายด้านกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึง –

กฎหมายมาตราชั่งตวงวัด (หมวด 68), ਜੋ ਵਪਾਰ ਦੇ ਉਦੇਸ਼ ਲਈ ਝੂਠੇ ਜਾਂ ਨੁਕਸ ਵਾਲੇ ਤੋਲ ਅਤੇ ਮਾਪਣ ਵਾਲੇ ਉਪਕਰਣਾਂ ਦੇ ਕਬਜ਼ੇ ਅਤੇ ਵਰਤੋਂ 'ਤੇ ਪਾਬੰਦੀ ਲਗਾਉਂਦਾ ਹੈ। ਇਹ ਇਹ ਵੀ ਮੰਗ ਕਰਦਾ ਹੈ ਕਿ ਵਪਾਰ ਦੇ ਦੌਰਾਨ ਵਜ਼ਨ ਜਾਂ ਮਾਪ ਦੁਆਰਾ ਵੇਚੀਆਂ ਗਈਆਂ ਚੀਜ਼ਾਂ ਨੂੰ ਸ਼ੁੱਧ ਵਜ਼ਨ ਜਾਂ ਮਾਪ ਦੁਆਰਾ ਵੇਚਿਆ ਜਾਣਾ ਚਾਹੀਦਾ ਹੈ।

กฎหมายความปลอดภัยของสินค้าอุปโภคบริโภค (หมวด 456) ซึ่งกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และซัพพลายเออร์สินค้าอุปโภคบริโภคต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่จัดหาในฮ่องกงเพื่อการใช้ส่วนตัวหรือการบริโภค (ไม่รวมสินค้าที่ระบุไว้ในตารางของกฎหมาย) มีความปลอดภัยในระดับที่เหมาะสม กฎหมายย่อยภายใต้กฎหมายนี้กำหนดให้ต้องมีคำเตือนหรือข้อควรระวังบนบรรจุภัณฑ์หรือฉลากของสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาจีน

กฎหมายความปลอดภัยของของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก (หมวด 424) ซึ่งกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และซัพพลายเออร์ของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่จัดหาเพื่อการบริโภคในท้องถิ่นเป็นไปตามมาตรฐานหรือข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่กำหนดไว้ กฎหมายย่อยภายใต้กฎหมายนี้กำหนดให้ของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่กำหนดต้องมีเครื่องหมายระบุตัวตนและคำเตือนหรือข้อควรระวังบนบรรจุภัณฑ์หรือฉลากทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาจีน นอกจากนี้ ยังกำหนดขีดจำกัดความเข้มข้นของสารพาทาเลตคลาส 1 และคลาส 2 อีกด้วย

กฎหมายคำอธิบายทางการค้า (หมวด 362) ซึ่งห้ามมิให้มีการใช้แนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคสินค้าและบริการ รวมถึงคำอธิบายทางการค้าที่เป็นเท็จ การละเว้นที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด การปฏิบัติทางการค้าเชิงรุก การโฆษณาที่ล่อใจ กลวิธีที่ล่อใจ และการยอมรับการชำระเงินอย่างไม่ถูกต้อง กฎหมายย่อยภายใต้กฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ค้าปลีกออกใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จรับเงินที่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่กำหนดไว้ให้กับผู้ซื้อทองคำ แพลทินัม เพชร หยกธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนด

ข้อกฎหมายดังกล่าวบังคับใช้โดย กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต ภายใต้กฎหมายคำอธิบายทางการค้า กรมการสื่อสาร มีเขตอำนาจศาลร่วมกันในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อต้านการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของผู้ได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายโทรคมนาคม (หมวด 106) และกฎหมายการแพร่ภาพกระจายเสียง (หมวด 562) ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับข้อกำหนดด้านการโทรคมนาคมหรือบริการกระจายเสียง

สภาผู้บริโภค

สภาผู้บริโภค ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1974 และเป็นหน่วยงานตามกฎหมายที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายสภาผู้บริโภค (หมวด 216) เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของผู้บริโภคในสินค้า บริการ และทรัพย์สินที่ไม่เคลื่อนย้ายได้ สภาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของผู้บริโภค เผยแพร่ข้อมูลและคำแนะนำเพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ดำเนินการทดสอบและศึกษาผลิตภัณฑ์ และจัดพิมพ์นิตยสารสำหรับผู้บริโภค "CHOICE" นอกจากนี้ สภายังติดตามแนวทางปฏิบัติทางการค้า และสนับสนุนให้สมาคมธุรกิจและสมาคมวิชาชีพกำหนดหลักปฏิบัติ ผู้บริโภคที่มีข้อพิพาทกับผู้ค้าและไม่สามารถตกลงกันได้สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาได้ ซึ่งสภาทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอมและช่วยเหลือผู้บริโภคในการแก้ไขข้อพิพาทกับผู้ค้า นอกจากนี้ สภายังบริหารจัดการกองทุนการฟ้องคดีผู้บริโภค ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1994 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเข้าถึงการเยียวยาทางกฎหมายโดยการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้บริโภคในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่สำคัญ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิก https://www.cedb.gov.hk/en/policies/consumer-protection.html

รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการแข่งขันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและการค้าเสรี ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ เราเชื่อว่าการแข่งขันจะเติบโตได้ดีที่สุดโดยการปล่อยให้กลไกตลาดเป็นไปอย่างเสรีและลดการแทรกแซงให้น้อยที่สุด กฎการแข่งขัน (กฎหมาย) ได้รับการประกาศใช้เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 โดยมีการบังคับใช้และนำไปปฏิบัติเป็นระยะ ๆ และเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 14 ธันวาคม 2015 สามารถดูข้อความของกฎหมายได้ที่นี่

คณะกรรมการการแข่งขัน (คณะกรรมการ) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 ภายใต้กฎหมายในฐานะองค์กรตามกฎหมายอิสระ ประธานคณะกรรมาธิการและสมาชิกของคณะกรรมการได้รับการแต่งตั้งโดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คณะกรรมการมีหน้าที่ดังต่อไปนี้:

-ตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจฝ่าฝืนกฎการแข่งขันและบังคับใช้บทบัญญัติของกฎหมาย;
-ส่งเสริมความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับคุณค่าของการแข่งขัน และวิธีที่กฎหมายส่งเสริมการแข่งขัน;
-ส่งเสริมการยอมรับโดยการดำเนินธุรกิจในฮ่องกงเกี่ยวกับการควบคุมภายในและระบบการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับกฎหมาย;
-ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องการแข่งขันในฮ่องกงและนอกฮ่องกง
-ดำเนินการศึกษาตลาดในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดในฮ่องกง; และ
-ส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เศรษฐกิจ และนโยบายของกฎหมายการแข่งขันในฮ่องกง

แนวทางในการตีความและการดำเนินการตามกฎการแข่งขันของกฎหมาย ขั้นตอนการร้องเรียนและการยื่นคำร้องเพื่อขอการยกเว้นและการตัดสินการยกเว้น ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เกี่ยวกับคณะกรรมาธิการและการบังคับใช้กฎหมาย สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการ

คณะกรรมการที่ปรึกษาเชิงนโยบายการแข่งขัน (COMPAG) ซึ่งมีรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นประธาน มีหน้าที่จัดการข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันต่อหน่วยงานที่ไม่อยู่ภายใต้กฎการแข่งขันของกฎหมาย หน่วยงานดังกล่าวรวมถึงหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานตามกฎหมายส่วนใหญ่ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้รับการยกเว้นจากการใช้กฎการแข่งขัน สามารถดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เกี่ยวกับ COMPAG ได้ในเว็บไซต์ของ COMPAG

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องข้างต้น โปรดคลิกhttps://www.cedb.gov.hk/en/policies/promotion-of-competition.html

นโยบายของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่และการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์คือการอนุญาตให้ผู้ใหญ่เข้าถึงภาพยนตร์ได้ในวงกว้าง ในขณะเดียวกันก็ปกป้องเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจากการรับชมเนื้อหาที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขา

ฮ่องกงมีระบบการจำแนกหมวดหมู่ภาพยนตร์ โดยแบ่งภาพยนตร์ออกเป็นหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งดังต่อไปนี้:

ਸ਼੍หมวดหมู่ I – เหมาะสำหรับทุกวัย
หมวดหมู่ IIA – ไม่เหมาะสำหรับเด็ก
หมวดหมู่ IIB – ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนและเด็ก
หมวดหมู่ III – สำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น

แม้ว่าหมวดหมู่ I, IIA และ IIB จะเป็นเพียงคำแนะนำ แต่การบังคับใช้ข้อจำกัดด้านอายุ (18 ปีขึ้นไป) สำหรับภาพยนตร์หมวดหมู่ III จะถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัด มาตรฐานการจัดหมวดหมู่ภาพยนตร์ได้รับการดูแลให้สอดคล้องกับมาตรฐานของชุมชนโดยการสำรวจความคิดเห็นของชุมชนเป็นประจำ และการปรึกษาหารือกับคณะที่ปรึกษาตามกฎหมาย ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกมากกว่า 300 รายที่มาจากชุมชนที่หลากหลาย

ภาพยนตร์ที่มีไว้สำหรับจัดแสดงต่อสาธารณะจะต้องส่งไปยังผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ และบทความ* ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ (FCA) ภายใต้กฎหมายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์* (FCO) (หมวด 392) เพื่อขอการอนุมัติ ภาพยนตร์ที่ได้รับการอนุมัติให้จัดแสดงต่อสาธารณะจะถูกจัดหมวดหมู่หรือได้รับการยกเว้นจากการจัดหมวดหมู่

นอกเหนือจากภาพยนตร์แล้ว บรรจุภัณฑ์ของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลทางกายภาพสำหรับภาพยนตร์หมวดหมู่ III (เช่น วิดีโอเทปและเลเซอร์ดิสก์) และสื่อโฆษณาสำหรับภาพยนตร์หมวดหมู่ III จะต้องได้รับการอนุมัติจาก FCA ก่อนจึงจะสามารถเผยแพร่หรือจัดแสดงต่อสาธารณะได้

การตัดสินใจของ FCA สามารถตรวจสอบได้โดยคณะกรรมการพิจารณา (การเซ็นเซอร์ภาพยนตร์) ซึ่งเป็นองค์กรตามกฎหมายที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ FCO

วัตถุประสงค์ของนโยบายในการควบคุมบทความลามกและอนาจารคือเพื่อปกป้องศีลธรรมของประชาชนและเยาวชนจากผลกระทบที่เป็นอันตรายของสื่อลามกและอนาจาร ขณะเดียวกันก็รักษาการไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรีและปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก

การเผยแพร่ (รวมถึงการแจกจ่าย หมุนเวียน และจำหน่าย) และการจัดแสดงบทความลามกและอนาจารในที่สาธารณะ (รวมถึงสิ่งพิมพ์ การบันทึกเสียง ภาพยนตร์ เทปวิดีโอ แผ่นดิสก์ และสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์) ได้รับการควบคุมโดยกฎหมายการควบคุมบทความลามกและอนาจาร* (COIAO) (หมวด 390) อย่างไรก็ตาม COIAO ไม่มีผลบังคับใช้กับภาพยนตร์ บรรจุภัณฑ์ภาพยนตร์ และสื่อโฆษณาภาพยนตร์ที่ครอบคลุมภายใต้ FCO และการออกอากาศทางโทรทัศน์ที่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายการแพร่ภาพกระจายเสียง COIAO บังคับใช้โดยกองสำนักงานบริหารภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ และบทความ กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต และตำรวจ

ภายใต้ COIAO "ลามก" และ "อนาจาร" รวมถึงความรุนแรง ความเสื่อมทราม และความน่ารังเกียจ บทความอาจจำแนกได้เป็น:

ਸ਼੍คลาส I: ไม่ลามกหรือไม่อนาจาร
คลาส II: ไม่เหมาะสม
คลาส III: ลามกอนาจาร

บทความคลาส I สามารถเผยแพร่ได้โดยไม่มีข้อจำกัด บทความคลาส II จะต้องไม่เผยแพร่แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี การตีพิมพ์บทความคลาส II จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายบางประการ รวมถึงการปิดผนึกบทความดังกล่าวในกระดาษห่อ (กระดาษห่อที่ทึบแสงโดยสมบูรณ์หากปกไม่เหมาะสม) และการแสดงคำเตือนตามที่ COIAO กำหนด (เช่น "บทความนี้มีเนื้อหาที่อาจเป็นการล่วงละเมิดและห้ามแจกจ่าย หมุนเวียน จำหน่าย เช่า ให้ ให้ยืม แสดง เล่น หรือฉายภาพแก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี.") ไม่น้อยกว่า 20% ของปกหน้าและปกหลังของบทความดังกล่าว บทความประเภท III ห้ามมิให้ตีพิมพ์

ประชาชนทั่วไปที่ต้องการสอบถามหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการควบคุมบทความลามกและอนาจารสามารถติดต่อสำนักงานบริหารภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ และบทความได้ทาง:

สายด่วนรับเรื่องร้องเรียน: 2676 7676
อีเมล: naa@ofnaa.gov.hk
ที่อยู่: 3/F, Treasury Building, 3 Tonkin Street West, Cheung Sha Wan

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิกhttps://www.cedb.gov.hk/en/policies/control-of-obscene-and-indecent-articles.html

อุตสาหกรรมการประชุมและนิทรรศการ (C&E) มีความสำคัญต่อฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม การค้า ตลอดจนการรับรู้ถึงแบรนด์ฮ่องกงในหลากหลายอุตสาหกรรม ในแต่ละปีฮ่องกงเป็นเจ้าภาพจัดงาน C&E ระดับนานาชาติขนาดใหญ่มากมาย ตั้งแต่การจัดการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง, ฟอรั่มการเงินเอเชีย, การประชุมโลจิสติกส์และการเดินเรือเอเชีย และ ฟอรั่มธุรกิจ IP ในเอเชีย ไปจนถึงศิลปะและการออกแบบแม่เหล็ก เช่น ศิลปะบาเซิลและสัปดาห์ธุรกิจแห่งการออกแบบ

ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกงที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเราและ AsiaWorld-Expo ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและบริการระดับโลกแก่ผู้จัดงานการประชุมและนิทรรศการ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิกที่นี่

การไปรษณีย์ฮ่องกง ให้บริการไปรษณีย์ที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นสากลในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นและพันธกรณีด้านบริการไปรษณีย์สากลของฮ่องกง โดยมีจุดหมายปลายทางมากกว่า 200 แห่งทั่วโลก ดำเนินกิจการเป็นแผนกกองทุนซื้อขายตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1995

นอกเหนือจากบริการจดหมายและพัสดุแล้ว การไปรษณีย์ฮ่องกงยังให้บริการอื่น ๆ ที่หลากหลายสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น บริการ Speedpost และ Local CourierPost นอกจากนี้ การไปรษณีย์ฮ่องกงยังให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บริการ e-Express+ และ EC-Get เพื่อรองรับการพัฒนาตลาดอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้ทันกับการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การไปรษณีย์ฮ่องกงได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านการส่งจดหมายและรวบรวมจดหมาย

สำหรับบิลและการชำระเงิน PayThruPost ให้บริการแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าในการชำระค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วยเงินสด เช็ค ธนาณัติ และ EPS ที่ไปรษณีย์ทุกแห่ง สามารถทำการชำระเงินแบบไร้สัมผัสสำหรับธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์และตู้ไปรษณีย์ iPostal แสตมป์ของฮ่องกงยังคงได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนในท้องถิ่นและนักสะสมแสตมป์ นอกเหนือจากเครือข่ายไปรษณีย์ที่กว้างขวางแล้ว การไปรษณีย์ฮ่องกงยังใช้แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ShopThruPost เพื่อให้นักสะสมแสตมป์ในท้องถิ่นและต่างถิ่นสามารถซื้อแสตมป์และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแสตมป์ของฮ่องกงได้อย่างสะดวก

ในอนาคตการไปรษณีย์ฮ่องกงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสภานิติบัญญัติสำหรับการพัฒนาศูนย์ไปรษณีย์ทางอากาศใหม่ ซึ่งจะติดตั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อประสิทธิภาพและความจุที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2027

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิก https://www.cedb.gov.hk/en/policies/postal-services.html

ฮ่องกงเป็นท่าเรือเสรี รัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่านพิธีการเคลียร์สินค้าและเร่งกระบวนการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้บริการการผ่านพิธีการเคลียร์สินค้าที่ตรงเวลาและเชื่อถือได้ มาตรการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:

- แพลตฟอร์มพีธีการเคลียร์สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์
- โปรแกรมผู้ประกอบการด้านเศรษฐกิจที่ได้รับอนุญาตของฮ่องกง
- โครงการ Single E-lock
- โครงการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี

รัฐบาลยังส่งเสริมการส่งและประมวลผลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการค้าหลักทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบริการการค้าอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาลและระบบศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้า

เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของฮ่องกง รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (รัฐบาล) ได้ส่งเสริมการนำอีคอมเมิร์ซมาใช้ในวงกว้างมากขึ้นในชุมชนการค้าในท้องถิ่น บริษัท Brio Electronic Commerce Limited, Global e-Trading Services Limited และ Tradelink Electronic Commerce Limited ได้รับการแต่งตั้งให้ให้บริการการซื้อขายสินค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (GETS) บริการการซื้อขายสินค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ เป็นแพลตฟอร์มบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่ชุมชนการค้าใช้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการค้าหลักให้กับรัฐบาล รัฐบาลขอสงวนสิทธิ์ในการแต่งตั้งผู้ให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต

โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารการค้า, ผู้ให้บริการ และ เอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับ GETS

รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาระบบศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้า (TSW) เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรสำหรับการยื่นเอกสารการค้านำเข้าและส่งออกประเภทต่าง ๆ กับรัฐบาล เพื่อวัตถุประสงค์ในการแจ้งข้อมูลการค้าและพิธีการศุลกากร

สํานักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต (ซึ่งดำเนินการ TSW) และหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ อีกหลายแห่งได้ทำงานร่วมกันเพื่อเปิดตัว TSW ในสามระยะ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ของ TSW ได้เปิดให้บริการเต็มรูปแบบและดำเนินการได้อย่างราบรื่น โดยครอบคลุมเอกสารการค้าทั้งหมด 42 ประเภท ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วใช้สำหรับการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ควบคุมเฉพาะ ระยะที่ 3 จะขยายครอบคลุมไปถึงการแจ้งการนำเข้าและส่งออก การยื่นข้อมูลสินค้า รวมถึงข้อมูลสินค้าล่วงหน้า รายการสินค้า และรายงานสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโหมดการขนส่งต่าง ๆ และการสมัครขอรับใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าและใบอนุญาตสำหรับสินค้าที่ต้องเสียภาษี โดยในปัจจุบันนี้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับระยะที่ 3 กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวบริการเป็นชุด ๆ ตั้งแต่ปี 2026

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TSW ในฮ่องกงและการพัฒนาล่าสุด โปรดคลิกที่นี่*

ตั้งแต่มีการยกเลิกภาษีไวน์ในปี 2008 ฮ่องกงก็กลายเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการค้าและจัดจำหน่ายไวน์ รวมถึงเป็นศูนย์กลางการประมูลไวน์ระดับโลกชั้นนำ รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไวน์อย่างต่อเนื่องในฮ่องกง ได้แก่:

˗สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมไวน์ในท้องถิ่นที่สำคัญ เช่น งานแสดงสินค้าไวน์และสุรานานาชาติฮ่องกง และ เทศกาลไวน์และอาหารฮ่องกง เพื่อส่งเสริมการค้าและวัฒนธรรมไวน์ ตลอดจน กระตุ้นการลงทุน;
-อำนวยความสะดวกในการส่งออกไวน์ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่โดยการรวบรวมข้อมูลการขนส่งไวน์ล่วงหน้าเพื่อดำเนินการพิธีการศุลกากรที่ท่าเรือในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ทันที;
-เสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศและภูมิภาคผู้ผลิตไวน์รายใหญ่;
-ส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับไวน์และการฝึกอบรมกำลังคน;
-สนับสนุนโครงการรับรองระบบจัดเก็บไวน์ของฮ่องกงและโครงการลงทะเบียนไวน์ของฮ่องกง; และ
-ป้องกันไม่ให้ไวน์ปลอมเข้ามาในฮ่องกงผ่านความพยายามร่วมกันของกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิต และอุตสาหกรรม โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวกรองจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายนอกฮ่องกง; และ
-ส่งเสริมสิทธิประโยชน์ปลอดภาษีศุลกากรสำหรับไวน์ที่ผลิตในฮ่องกงเมื่อนำเข้ามายังจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้กรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง (CEPA)

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.cedb.gov.hk/en/policies/wine-business.html และ www.wine.gov.hk.

รายชื่อประเทศที่ถูกคว่ำบาตร

สำหรับสถานะล่าสุดของมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่บังคับใช้ในฮ่องกง โปรดดู "กฎหมายการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ" (บทที่ 537 ของกฎหมายฮ่องกง) และกฎหมายย่อยซึ่งมีอยู่ใน เว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรม

รายชื่อตามบัญชีรวมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (รวมถึงบุคคลและหน่วยงานทั้งหมดที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเป้าหมาย)

คลิกที่นี่

ผลบวกปลอม

บุคคลหรือหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการเงินแบบกำหนดเป้าหมายอันเนื่องมาจากการระบุตัวตนที่ผิดพลาดหรือความสับสนกับบุคคลหรือหน่วยงานที่อยู่ในรายชื่อการคว่ำบาตรที่ระบุไว้ข้างต้น สามารถส่งคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอคำชี้แจงไปยังสํานักพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าหลังจากขอคำอธิบายจากสถาบันที่อายัดทรัพย์สิน รวมถึงคำร้องขอให้ระบุว่าบุคคลหรือหน่วยงานใดในรายชื่อการคว่ำบาตรที่เป็นพื้นฐานของการดำเนินการอายัดทรัพย์สินดังกล่าว

ที่อยู่: Commerce and Economic Development Bureau, 23/F, West Wing, Central Government Offices, 2 Tim Mei Avenue, Tamar, Hong Kong.
อีเมล: enquiry@cedb.gov.hk
โทรสาร: (852) 2918 1273

ข้อกำหนดในการรายงานการคว่ำบาตรทางการเงินแบบกำหนดเป้าหมาย

บุคคลทุกคนต้องรายงานทรัพย์สินที่ถูกอายัดหรือการดำเนินการใด ๆ ที่ดำเนินการตามข้อกำหนดการคว่ำบาตรทางการเงินแบบกำหนดเป้าหมาย โดยยื่นรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย ("STR") ต่อหน่วยข่าวกรองทางการเงินร่วม ("JFIU") ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องสามารถดูได้ในเว็บไซต์ของ JFIU

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดคลิก https://www.cedb.gov.hk/en/policies/united-nations-security-council-sanctions.html